วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

Vaser LipoSelection (เวเซอร์ ไลโปเซเล็กชั่น)


   

Vaser LipoSelection (เวเซอร์ ไลโปเซเล็กชั่น)

     นวัตกรรมใหม่แห่งการสลายไขมัน ที่สามารถเลือกกำจัดไขมันได้เฉพาะจุดทั้ง สะโพก, ก้น, หน้าอก, เอว, ท้อง, คาง, หลัง,คอ, ต้นขา, แขน, เข่า และ ศอก เป็นต้น อย่างได้ผลดี โดยที่เซลล์ประสาท เส้นเลือดและเนื้อเยื่อข้างเคียงเกิดความเสียหายน้อยมาก ความบอบช้ำหลังการทำน้อย คนไข้ฟื้นตัวได้เร็วและผิวบริเวณที่ผ่านการดูดไขมันสามารถคืนตัวสู่ความกระชับเรียบเนียน ไม่เกิดปัญหาผิวขรุขระเป็นโพรงซึ่งเหล่านี้เป็นข้อดีที่แตกต่างจากการดูดไขมันวิธีเก่าในอดีตมาก
 
กระบวนการทำงานของ  Vaser LipoSelection  

1. เริ่มด้วยการฉีดน้ำเกลือผสมยาเข้าสู่ชั้นไขมัน เพื่อขยายปริมาตรในบริเวณที่มีไขมันสะสมอยจะทำให้ การสะลายไขมัน มีประสิทธิภาพขึ้น ขณะเดียวกัน ก็ช่วยให้เส้นเลือดน้อย ขณะทำการสลายไขมัน

2. คลื่นเสียงความถี่ในการสั่นสูง ซึ่งถูกปล่อยจากเครื่อง Vaser
จะทำให้เซลล์ไขมันสลายตัวจนกลายเป็นไขมันเหลว ด้วยการปล่อยคลื่นเสียงออกเป็นระลอกๆ ทำให้ลดพลังงานลง ได้ถึง50% เมื่อเทียบกับ คลื่นเสียงรุ่นแรกๆ โดยทำให้ เซลไขมันแตกตัวได้ แต่มีผลน้อยกับเนื้อเยื่ออื่นๆ เช่น เส้นเลือด เส้นประสาท

3. เซลล์ไขมันสลายตัวกลายเป็นไขมันเหลวแล้ว จึงง่ายในการดูดออกจากร่างกาย โดยการใช้อุปกรณ์เฉพาะของเครื่อง Vaser ซึ่งได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ

4. ระหว่างการพักฟื้น ผิวหนังจะค่อยๆ หดตัวกลับคืนสู่สภาพเดิมได้ ทำให้หลังทำแล้วผิวบริเวณที่ผ่านการทำ Vaser ยังคงเรียบเนียนเป็นปกติ


สรุปข้อดีของ VASER
• การทำ VASER ใช้สลายไขมันได้เกือบทุกส่วนทั่วร่างกาย
• สามารถทำ VASER ได้แม้แต่จุดที่การดูดไขมันแบบเก่าทำได้ยาก เช่น ใต้คาง บริเวณคอ และบริเวณหลัง เป็นต้น
• เกิดความเจ็บปวดและรอยช้ำหลังการทำน้อยกว่าเดิม
• มีการเสียเลือดระหว่างการดูดไขมันน้อยกว่าวิธีเดิมมาก
• คนไข้จะฟื้นตัวได้เร็วกว่าการดูดไขมันแบบเก่า
• หลังการทำเซลล์ไขมันจะหายไปโดยที่เนื้อเยื่อรอบข้างยังสมบูรณ์
• ผิวที่ผ่านการทำ VASER ซึ่งมีการหายไปของเซลล์ไขมันนั้น สามารถคืนตัวกลับสู่ความ เรียบเนียนได้ ไม่เกิดปัญหาผิวเป็นคลื่นหลังการทำ

หลังการทำ VASER
• รูปร่างได้สัดส่วนสวยงามขึ้นปราศจากไขมันส่วนเกิน
• มีการคืนตัวของผิวบริเวณที่ดูดไขมัน ให้กลับมากระชับได้ดังเดิม

ระยะเวลาการพักฟื้น
ระยะเวลาการพักฟื้นจนกระทั่งปกติของคนไข้จะแตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับ
ปริมาณไขมันที่ต้องการกำจัด และจำนวนบริเวณที่ดูดไขมันมีกี่จุด
โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสามารถให้คำปรึกษาได้
 

ผลลัพธ์จากผู้ผ่านการทำ Vaser LipoSelection
     จากประสบการณ์ของผู้ผ่านการทำ Vaser ทั้งหญิงและชายที่ผ่านมา ล้วนแต่ให้ผลตอบรับ ด้านผลลัพธ์ที่ดี ทั้งผิวเรียบเนียน รูปร่างกระชับได้สัดส่วน มีความเจ็บปวดน้อย และฟื้นตัว ได้เร็ว หากเปรียบเทียบกับวิธีการดูดไขมันแต่ละแบบ จะเห็นว่า Vaser LipoSelection ได้รับการยอมรับอันเป็นมาตรฐาน ซึ่งแพทย์จากทั่วโลกต่างแนะนำเทคนิค Vaser มากกว่า การดูดไขมันแบบอื่นๆ แต่แน่นอนว่า สิ่งที่เชื่อถือได้มากสุดคือผลที่ได้รับหลังการทำ โดย สามารถดูได้จากรูปเปรียบเทียบก่อนและหลังทำ Vaser LipoSelection แล้วนี้
 
หน้าท้อง

หน้าท้อง 
ก้น, ต้นขา และ สะโพก

ก้น, ต้นขา และ สะโพก  
แขน 

แขน 

 
ใต้คาง 

 ใต้คาง
บริเวณหลัง
 
บริเวณหลัง
 
หน้าอก

หน้าอก
 
About Vaser LipoSelection

    ทำไม VASER LipoSelection จึงแตกต่างจากการดูดไขมันทั่วไปหรือคลื่นเสียงรุ่นแรก.ความแตกต่างของVASER ( Vibration Amplification of Sound Energy at Resonance) .คือการทำงานโดยการปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูงเป็นช่วงๆ ออกมาจากหัว VASER ที่มีขนาดเล็ก .ซึ่งจะมีร่องบากเป็นตัวปล่อยคลื่นเสียงเหล่านี้ออกมาจากทั้งด้านบนและด้านข้าง เพื่อให้เซลล์ไขมันแตกตัว ด้วยการใช้พลังงานที่ลดลงถึง 50% อันเป็นความแตกต่างจากคลื่นเสียงรุ่นแรกที่มีการนำมาใช้ จึงทำให้เนื้อเยื่ออื่นๆ ที่เป็นเส้นเลือด เส้นประสาท หรือเนื้อเยื่อเกี่ยวพันได้รับผลกระทบน้อย จากนั้นไขมันเหลวจะถูกดูดออกมาด้วยหัวดูดพิเศษ

VASER Technology      
  การขจัดไขมันด้วย VASER Technology เป็นการผสมผสานของนวัตกรรมเครื่องมือกำจัดไขมัน
ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ซึ่งปัจจุบันได้จดสิทธิบัตรไว้แล้ว ร่วมกับวิธีการทำไลโปเซเล็กชั่น (LipoSelection) อันมีวิธีการที่แตกต่างไปจากการดูดไขมันทั่วๆ ไป
ลักษณะพิเศษของ VASER Technology คือ
• หัวท่อ VASER มีลักษณะเป็นร่องบาก สามารถกำหนดความแรงของคลื่นที่ถูกส่งออกไปมากน้อยตามที่ต้องการได้
• หัว VASER มีขนาดเล็กเพียง 2.2 – 3.7 มม
• ส่วนปลายหัว VASER เป็นหัวมนเรียบ ไม่มีขอบแหลมๆ จึงไม่มีปัญหาการเกี่ยวตัดเนื้อเยื่อบริเวณนั้นๆ
รู้จักเครื่องมือ VASER      
  หัวของเครื่องมือ VASER นั้นมีหลายแบบ สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมของบริเวณที่ทำการดูดไขมัหรือลักษณะของเซลล์ไขมันที่สะสมอยู่ในส่วนนั้น โดยหัว VASER จะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 2.2 mm.-3.7 mmมีตั้งแต่ 1-3 วงแหวน (ร่องบาก) ซึ่งความแตกต่างของการใช้งาน ได้แก่ • หัว VASER ขนาด 3.7 mmใช้ในพื้นที่ซึ่งไขมันสะสมปริมาณมากถึงปานกลาง เพื่อการดูดไขมันได้เยอะและเร็ว
• หัว VASER ขนาด 2.9 mm. จะเหมาะกับไขมันปริมาณไม่มาก หรือบริเวณชั้นไขมันที่อยู่ไม่ลึกเท่าไร
• หัว VASER ขนาด 2.2 mm. เหมาะกับไขมันปริมาณน้อย รวมถึงพื้นที่ละเอียดอ่อน เช่น
  ส่วนของใบหน้าบริเวณแก้มและขากรรไกร, ส่วนจำนวนของวงแหวนนั้น
   วงแหวน จะใช้ในจุดที่เป็นไขมันแบบหนาแน่นมาก (Fibrous fat) ด้วยการออกแบบให้หัว VASER
ปล่อยพลังงานจากส่วนบนได้มากถึง 70%
   วงแหวน จะใช้ในจุดที่เป็นเซลล์ไขมันแบบหนาแน่นปานกลาง (Medium fat)ดังนั้นจึงมีการปล่อยพลังงานจากส่วนบนของหัว VASER ที่ 50 % วงแหวน จะใช้ในจุดที่เป็นไขมันแบบไม่หนาแน่น (Soft fat) จึงเน้นปล่อยพลังงานออกทางด้านข้างมากกว่าซึ่งก็เป็นเหตุผลที่ต้องมีจำนวนวงแหวนถึง 3 วง โดยให้ส่วนบนของหัว VASER ปล่อยพลังงานแค่เพียง 30% เท่านั้น
ข้อเสียของ VASER ที่อาจเกิดขึ้นได้
1.อาจเกิดปัญหาผิวหนังไหม้จากการสะสมของความร้อนบริเวณปากแผลหรือผิวหนังบริเวณใกล้เคียง
2.อาจเกิดการคั่งของน้ำเหลือง สาเหตุจากเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังถูกทำลายมากเกินปกติ เกิดในกรณีที่ผู้ทำ VASER ขาดความเชี่ยวชาญพอ จึงมีการใส่น้ำน้อยเกินไปในขั้นตอนการใส่น้ำเกลือผสมยาเริ่มแรกก่อนดูดไขมัน
   
การทำ VASER อาจได้ผลต่างออกไปจากเดิม ในจุดต่อไปนี้
- บริเวณที่บอบบาง
- บริเวณที่มีไขมันปริมาณน้อย
- บริเวณหลัง
- บริเวณด้านหลังต้นคอ (Buffalo Hump)
- บริเวณเต้านม
- บริเวณที่มีพังผืดมาก
- บริเวณที่เป็นการดูดไขมันซ้ำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น